Episodes
"นักปฏิบัติส่วนใหญ่เวลาทำกรรมฐาน จิตจะไปแช่ไปเพ่งกับอารมณ์กรรมฐาน เพราะไม่เห็นจิตตัวเอง ไม่เห็นจิตที่เพ่ง ไม่เห็นสภาวะ จิตก็เลยไม่ตื่นออกมา พอจิตไม่ตื่น ไม่มีสัมมาสมาธิ จะเดินปัญญาก็เดินไม่ได้ ให้เราไปฝึกสติของเราให้ดี ๆ หัดดูนามธรรม ดูจิตที่มีความโลภ ความโกรธ ความหลง หรือดูร่างกายเคลื่อนไหวหยุดนิ่ง ให้สติมันเกิด แล้วเราฝึกสติไว ๆ ต่อไปใจลอยหรือว่าหลงไป ใจจะรู้ทัน หรือว่ารู้ทันสภาวะจิตที่ไหลไปเพ่ง จิตจะตื่นออกมา เป็นสภาวะของจิตที่มีสัมมาสมาธิ" --พระอาจารย์สมชาย (อ๊า) กิตฺติญาโณ คอร์สชอบธรรม 8...
Published 01/12/24
"การปลีกตัวอยู่กับตัวเอง มันช่วยได้เยอะ อย่างน้อยเราไม่ต้องไปฟุ้งกับเรื่องที่มากระทบมาก ๆ ในชีวิตประจำวัน ก็จะมีความสงบอยู่ระดับนึง และอีกส่วนนึงที่ช่วย ก็คือ ที่จิตใจมันสงบ มันจะมีความสุขแบบเงียบ ๆ และความสุขตัวนี้มันทำให้จิตใจเราไม่แส่ส่ายมากนัก เวลามันสงบระงับได้ในระดับนึง เวลามันเคลื่อนไหว เวลามีผัสสะ เวลามีอะไรเข้ามากระทบ มันจะเห็นได้ชัด" --คุณกิตติยา ผลเกิด คอร์สจีนออนไลน์ ครั้งที่ 5 5 ตุลาคม 2565
Published 11/03/23
"เราไม่ต้องกลัวอกุศล ให้เรามองอกุศลทั้งหลายเป็นเครื่องมือที่จะให้เราพัฒนา ให้เรามีสติที่เข้มแข็งมากขึ้น ถ้าไม่หลงก็จะไม่รู้ รักษาหรือเพ่งไว้ก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉะนั้นไม่ว่าเป็นกุศลหรืออกุศล เราก็เอาเป็นเครื่องมือ เป็นครูสอนให้เราพัฒนาสติ สมาธิ ปัญญา ให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ขณะที่เกิดอกุศลแล้วมีสติเกิดขึ้น ตรงนั้นเป็นกุศล แล้วถ้าเกิดสติบ่อย ๆ จนเป็นสติที่เป็นอัตโนมัติ เกิดขึ้นเองโดยไม่มีเจตนา ขณะนั้นก็มีศีล กิเลสจะดับ กิเลสครอบงำใจไม่ได้ ก็เท่ากับรักษาศีลได้อัตโนมัติ" --คุณนิติยา เพ็ชรไพบูลย์...
Published 11/02/23
"เอาใจที่เป็นปกติ แล้วเรียนรู้ความเป็นปกติของมัน แล้วเราจะเห็นความจริงที่มันเป็นปกติอยู่แล้ว ว่าทุกสภาวะ ล้วนแต่แสดงไตรลักษณ์ทั้งสิ้น และทุกสภาวะ ก็ไม่ใช่เรา ค่อย ๆ ดูไปนะ" --คุณนิติยา เพ็ชรไพบูลย์ คอร์สคนลาว 16-18 มิถุนายน 2566
Published 11/01/23
"จิตใจมันสุดโต่งสองฝั่งอยู่แล้ว เราเรียนเป็นคู่ ๆ ไป กล้า ๆ เรียนทั้งดีและไม่ดี ทั้งดีและไม่ดีก็สอนธรรมะเราได้ และพบว่าทั้งดีและไม่ดี มันตกอยู่ใต้หลักสามัญลักษณะ คือมันเป็นไตรลักษณ์ ดีก็เกิดดับ ไม่ดีก็เกิดดับ" --คุณซอง ณพัทธ์พล คุณาธนะเศรษฐ์ คอร์สคนลาว 16-18 มิถุนายน 2566
Published 10/31/23
"กิเลสอะไรที่เกิดบ่อย ทุกครั้งที่มันเกิดขึ้นมา คอยรู้ทัน ถ้าเรารู้ทันบ่อย ๆ ถึงแม้ไม่ได้อยู่ใกล้ครูบาอาจารย์ เราก็ขัดเกลาตัวเองได้ ถ้าเราอยากขัดเกลาตัวเอง เช่น เราเห็นอะไรที่เราไม่อยากทำ ถ้าเป็นกิเลส เราขัดเกลาตัวเองโดยการลงไปทำ ทุกครั้งที่เราทำ เราจะได้กำลังขึ้นมา กำลังของใจที่พร้อมจะสู้กับกิเลส แล้วใจจะเข้มแข็ง นักภาวนาจะมาตายตรงนี้ส่วนหนึ่งคือ ภาวนาแล้วไม่ได้ขัดเกลากิเลสตนเอง การขัดเกลากิเลสตนเองอยู่ในองค์มรรค คือสัมมาวายามะ มุ่งขัดเกลาบาปอุศลในใจ มุ่งรักษาไม่ให้ใจตกลงไปในอกุศล...
Published 10/30/23
"ปัญญาไม่ใช่เรื่องลึกลับซับซ้อน มันคือการเห็นสภาวะของจริง ปัญญาคือการเห็นสภาวะที่เกิดดับ มันไม่มีคำพูด ไม่มีการพากษ์ แต่คือความเข้าใจ ตัวอย่างเช่น กิเลสเกิดแล้วดับ สิ่งไหนที่เกิดที่ดับ ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนของเรา แต่ไหนแต่ไร จะมีเราโกรธ เราโลภ เราหลง แต่พอมีจิตตั้งมั่นขึ้นมา เริ่มเห็นว่าจิตมันโกรธ ความโกรธมันแทรกเข้ามา ไม่ใช่เราโกรธ การเรียนรู้สภาวะต่าง ๆ ว่าไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ตัวนี้เรียกว่าการเดินปัญญา" --คุณซอง ณพัทธ์พล คุณาธนะเศรษฐ์ คอร์สคนลาว 16-18 มิถุนายน 2566
Published 10/29/23
"คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นเสมือนแผนที่ให้เราเดิน จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง เป็นแผนที่เพื่อความพ้นทุกข์ เป็นเส้นทางของมรรค เราฟังธรรมะแล้วเข้าใจ ก็ค่อย ๆ กลับไปฝึก เราค่อย ๆ เดินไป เดินไปทีละก้าว ๆ ไม่หยุด มันจะค่อย ๆ สะสมความรู้ความเข้าใจมากขึ้น แต่สักพักหนึ่ง บางทีมันก็ลืมนะ เพราะในสังสารวัฏเราสะสมมิจฉาทิฏฐิมาตลอด มันก็อดไม่ได้ที่จะกลับไปเข้าใจแบบเดิม ๆ ฉะนั้นเราก็ต้องหมั่นกลับมาฟังธรรม ฟังแผนที่ของการปฏิบัติ ฟังบ่อย ๆ แล้วค่อย ๆ เอาไปปฏิบัติ จะค่อย ๆ เห็นเอง แล้วก็จะได้เข้าใจ" --คุณนิติยา...
Published 10/29/23
"กรรมฐานไหนทำแล้วเกิดสมาธิบ่อยให้ใช้อันนั้น เริ่มต้นก็ค่อย ๆ ฝึกให้เข้าใจ พอผ่านไปเมื่อเริ่มรู้ทันจิตเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นกรรมฐานไหนถ้าทำถูก คือรู้ทันจิต ก็ใช้ได้หมด เพราะรูปแบบเป็นแค่เปลือก การสวดมนต์ เคลื่อนไหว ทำจังหวะ ร่างกายเคลื่อนไหว ก็ให้กลับมารู้ทันจิต ไม่ได้บอกว่าทำอันไหนดีกว่าอันไหน แต่มันอยู่ที่ว่าทำแล้วรู้ทันจิตไหม และกรรมฐานไม่ควรมีเกินสองอย่าง ถ้ามีเครื่องอยู่หลายแบบจะงง ทำอันไหนที่มันตรงจริตนิสัย สติเกิดได้บ่อยสมาธิเกิดได้ง่าย ทำอันนั้น" --คุณนิติยา เพ็ชรไพบูลย์ คอร์สคนลาว...
Published 10/29/23
"บางคนใจร้อน รู้สึกว่าต้องรีบเจริญปัญญาถึงจะเข้าใจได้ธรรมะ ก็พยายามคิดนำ ขณะที่คิดขณะนั้นคือหลง ไม่ได้รู้หรอกว่าหลงไปคิด แล้วเวลาที่เจริญปัญญาเห็นไตรลักษณ์ของรูปนามกายใจ มันแค่รู้สึกขึ้นมา ไม่ได้เป็นคำพูดยาว มันแค่เห็นเหมือนเรามีสติแล้วเห็นสภาวะ ขณะที่มีสติเห็นสภาวะ ขณะนั้นมีสมาธิเกิดขึ้น และมีกำลังมากพอมีจิตตั้งมั่น เป็นผู้รู้ผู้ดู ขนาดนั้นจะเห็นความจริงว่าทุกสภาวะล้วนเกิดแล้วดับ นี่ก็เจริญปัญญาเหมือนกัน" --คุณนิติยา เพ็ชรไพบูลย์ คอร์สคนลาว 17 มิถุนายน 2566
Published 10/28/23